ลองคิดพร้อมกันว่ามันจะมีอะไรที่สะดวกสบายไปมากกว่าการเลือกใช้ บริการ ดูดส้วมประเวศ ที่พร้อมทำงานและแก้ไขปัญหาให้เราทุกคนได้อย่างมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของคนในบ้าน หรือจะเป็นปัญหาส้วมตัน ส้วมเต็ม บ่อเกรอะส่งกลิ่นเหม็น ตลอดจนปัญหาซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดข้องในการใช้งานส้วมก็สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพราะทางเรามีทีมงานที่พร้อมทำงานจริงด้วยประสบการณ์ระดับมืออาชีพทุกงานแน่นอน
สำหรับใครที่มีคำถามสงสัยหรือต้องการปรึกษาเรื่องของบริการดูดส้วมสามารถติดต่อสอบถามได้เลยทันทีที่
เบอร์โทรศัพท์ : 082-004-7597 (ช่างดุลย์) พื้นที่ให้บริการเขตประเวศ หนองบอน กาญจนาภิเษก ศรีนครินทร์ อ่อนนุช พัฒนาการ อุดมสุข สุขาภิบาล5 ดูดส้วมประเวศ
ไลน์ : https://line.me/ti/p/~0820047597
บริการดูดส้วมเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในบริการที่ขาดไปไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตของคนในสังคม เนื่องจากร่างกายของคนเรามีการออกแบบมาให้ต้องขับถ่ายของเสีย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตามออกจากร่างกายอยู่เป็นประจำ ซึ่งการขับถ่ายของเสียลงไปใน ‘ส้วม’ ก็เป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของคนในยุคสมัยนี้ที่ขาดไปไม่ได้ และมันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราทุกคนมีความจำเป็นจะต้องใช้บริการรถดูดส้วมด้วยนั่นเอง
เพราะฉะนั้นบริการดูดส้วม คือ บริการที่จะเข้ามาช่วยกำจัดสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ซึ่งร่างกายของคนเราขับถ่ายออกมาไม่ให้สะสมในถังเก็บมากเกินไปจนเกิดปัญหาส้วมตันนั่นเอง เนื่องจากสิ่งปฏิกูลที่ถูกขับถ่ายออกมาเหล่านั้นจะถูกเก็บสะสมอยู่ในบ่อพัก (บ่อพักจะมีลักษณะหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามการใช้งานของแต่ละบ้าน) ส่งผลให้จะต้องมีการกำจัด ดูด ตลอดจนถ่ายเทสิ่งปฏิกูลเหล่านั้นออกเพื่อลดปริมาณการสะสมที่มากจนเกินไป จนก่อให้เกิดปัญหาด้านการใช้งานหรือปัญหาด้านสุขภาพของคนที่พักอาศัยซึ่งอาจจะตามมาได้ด้วย
ใช้บริการดูดส้วมดีอย่างไร ทำไมถึงมีความสำคัญไร ?
สำหรับบ้านไหนที่เวลาผ่านไปหลายปีถึงจะทำการดูดส้วมสักครั้งหนึ่ง หรือบ้านใครที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านค่อนข้างมากก็อาจจะเคยพบกับปัญหาเกี่ยวกับส้วมตันกันอยู่เป็นประจำ เพราะฉะนั้นวิธีการแก้ปัญหาในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำร้อนร่วมกับน้ำยาล้านจานหรือจะน้ำส้มสายชูละลายร่วมกับเบคกิ้งโซดา เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตนเองในเบื้องต้นจึงอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้
ไม่เพียงเท่านั้นส้วมที่มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน ก็ยังจำเป็นจะต้องใช้บริการดูดส้วมอยู่เป็นประจำเพื่อลดการสะสมของสิ่งปฏิกูลและลดปัญหาส้วมตันหรือส้วมกดไม่ลงได้นั่นเอง และที่สำคัญก็ยังมีข้อดีอีกหลายประการที่ไม่ควรมองข้ามหากทุกคนเลือกใช้บริการดูดส้วมของเรา เช่น
เพราะปัญหาเหล่านี้บางครั้งก็ไม่ได้เลือกเวลาเกิด มิหน้ำซ้ำปัญหาส้วมตัน ราดน้ำไม่ลง มันยังมักจะเกิดขึ้นเสมอในตอนที่เรากำลังจะใช้งานอีกด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและให้ทันท่วงที การเลือกใช้บริการดูดส้วมของเราจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งยังรับประกันได้เลยว่าเรามีทีมงานซึ่งพร้อมรับงานตลอด 24 ชั่วโมงแน่นอน
นอกจากนั้นเราก็ยังมีช่องทางในการติดต่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลความรู้ดี ๆ ผ่านทางเว็บไซต์, แอปพลิเคชันไลน์ หรือจะโทรเข้ามาติดต่อสอบถามด้วยตนเองโดยตรงได้เช่นกันที่เบอร์โทรศัพท์ : 082-004-7597 (ช่างดุลย์)
เนื่องจากบางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้งาน เราก็อาจจะไม่ได้รู้ต้นตออย่างแน่ชัดว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะมีสิ่งของไปอุดตันท่อ, บ่อเกราะแตกเสียหาย, หรือพบสิ่งแปลกปลอมบริเวณท่อระบายน้ำหรือไม่ เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างตรงจุด จึงไม่แปลกที่ทำได้เพียงแก้ไข ‘เฉพาะหน้า’ ไปก่อนในเบื้องต้น จากนั้นปัญหาเดิม ๆ ก็มีสิทธิที่จะวนซ้ำกลับมาเกิดขึ้นได้ใหม่ เป็นความเดือดร้อนรำคาญใจไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นการใช้งานบริการดูดส้วมที่มีประสบการณ์การทำงานจริง ก็จะช่วยให้ทีมงานสามารถแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้ถูกที่ถูกจุดมากยิ่งขึ้น
ต่อเนื่องจากข้อดีของการเรียกใช้บริการรถดูดส้วมในข้อด้านบน เนื่องจากผู้ให้บริการดูดส้วมในรูปแบบนี้จะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นพิเศษ รวมไปถึงผู้ที่จะมาทำงานในส่วนตรงนี้ให้กับลูกค้าก็จะต้องมีความรู้ความสามารถ ทั้งยังต้องมีใจรักในการบริการอย่างดีเยี่ยม ดังนั้นประสบการณ์และความรู้จากทีมงานของเราจึงเป็นข้อดีหลัก ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการทุกท่านได้รับความสะดวกสบาย และการันตีได้ถึงผลลัพธ์ของชิ้นงานอันเป็นที่น่าพอใจนั่นเอง
อีกหนึ่งข้อดีและประโยชน์ซึ่งเห็นภาพได้ชัดมากที่สุดของการเรียกใช้บริการดูดส้วมก็คือ ทีมงานผู้ให้บริการจะมีความรู้ความสามารถ ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องมือในการทำงานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเกิดปัญหาในรูปแบบไหนเกี่ยวกับการใช้ส้วม ทางทีมงานก็สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ บริการด้วยความใส่ใจ และสามารถทำงานออกมาให้ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจกับผู้ใช้งานทุกคนได้แน่นอน
เนื่องจากเรื่องของการขับถ่ายเป็นสิ่งที่มนุษยืเราจำเป็นจะต้องทำกันอยู่แล้วเป็นประจำ แต่น้อยคนนักที่จะมีความใส่ใจในเรื่องของการดูดส้วม ตลอดจนใส่ใจดูแลการใช้ส้วมอย่างถูกวิธี เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหาส้วมเต็ม ส้วมตัน จึงไม่แปลกที่มันจะก่อให้เกือดความเดือดร้อนรำคาญได้ง่าย ๆ ดังนั้นการหันมาเรียกใช้งานบริการดูดส้วมอยู่เป็นประจำก็จะทำให้เราทุกคนสามารถใช้งานส้วมได้อย่างปกติ ลดปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องเสียไปเมื่อไม่สามารถขับถ่ายได้อย่างที่ต้องการ ทั้งยังลดปัจจัยเกี่ยวกับกลิ่นและสิ่งสกปรกสะสมซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย
รวมคำถามยอดฮิตและสาระน่ารู้ของผู้ใช้บริการรถดูดส้วม
เนื่องจากปัญหาในเรื่องของ ‘ส้วม’ นั้นเป็นสิ่งที่อาจจะทำให้หลายคนหลงลืมและมองข้ามไป ดังนั้นจึงยังมีคำถามและข้อสงสัยอีกมากมาย ซึ่งผู้ใช้งานบริการรถดูดส้วมของเรายังคงค้างคาใจและไม่รู้ว่าจะหาคำตอบที่ไหนดี ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมคำถามยอดฮิตซึ่งจะเป็นสาระความรู้ดี ๆ มาฝากให้ทุกคนได้อ่านกัน จะมีคำถามไหนน่าสนใจบ้างตามไปอ่านพร้อมกันได้เลย
1. ถังแซทกับส้วมซึมแตกต่างกันอย่างไร
คำถามแรกที่ผู้ใช้บริการดูดส้วมรวมไปถึงบุคคลทั่วไปอาจจะมีความมึนงงสับสนว่า ‘ถังแซท’ กับ ‘ส้วมซึม’ คืออะไร แล้วมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง รวมไปถึงควรวางแผนใช้บ่อพักในรูปแบบไหนถึงจะเหมาะกับการใช้งานของแต่ละบ้านบ้าง ในหัวข้อนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกัน
ถังแซท คือ ถังบำบัดน้ำเสียซึ่งถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อบำบัดน้ำและปล่อยออกสู่ท่อน้ำด้านนอก และยังสามารถแยกกากของสิ่งปฏิกูลของออกจากน้ำโสโครกได้ โดยหลังจากที่กากตะกอนตกลงสู่ก้นถังแล้ว กระบวนการภายในจะอาศัยจุลินทรีย์ที่เติมเข้าไปเพื่อย่อยสลายกากตะกอนเหล่านั้นอีกขั้นตอนหนึ่ง ดังนั้นถังแซทจึงเป็นระบบการกำจัดของเสียที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมันสามารถทำหน้าที่เป็นถังบำบัดอย่างสำเร็จรูปได้ในตัวเอง
ส้วมซึม คือ สำหรับใครที่เคยเรียกใช้บริการดูดส้วมกันมาก็คงจะพอรู้กันมาบ้างว่า รูปแบบของส้วมที่มีการเต็ม อุดตัน หรือเกิดปัญหาได้ง่ายก็คือรูปแบบส้วมที่เป็นแบบส้วมซึม ซึ่งเป็นระบบการใช้งานของส้วมที่นิยมกันมากในยุคสมัยก่อน รวมไปถึงบางพื้นที่ในสมัยนี้ด้วย โดยจะมีลักษณะเป็นแท่งบ่อซีเมนต์ต่อเรียงขึ้นมาเป็นชั้น ๆ ใต้ดิน เพื่อกักเก็บสิ่งปฏิกูลที่เราทำการขับถ่ายลงมา โดยเป็นระบบที่จะต้องอาศัยการย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการดูแลและระวังปัจจัยอื่น ๆ ที่จะทำให้การใช้งานติดขัดอยู่เป็นประจำ เช่น ฝนตกหนัก, บ่อเกราะเต็ม, มีน้ำเข้าไปในบ่อ เป็นต้น
เพราะฉะนั้นหากจะให้นิยามอย่างง่าย ๆ ถึงความแตกต่างของถังแซทกับส้วมซึม ก็จะสามารถกล่าวได้ว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันในเรื่องของรูปแบบตัวถัง, กระบวนการจัดเก็บ, ตลอดจนวิธีการกำจัดสิ่งปฏิกูลของมันนั่นเอง ส่วนใหญ่ที่พักอาศัยในพื้นที่ซึ่งไม่ได้มีพื้นดินหรือบริเวณรอบบ้านมากนักก็จะนิยมใช้ถังแซทกัน เนื่องจากดูแลง่ายและมีปัจจัยในการเกิดปัญหาน้อยกว่านั่นเอง
2. ประโยชน์ของถังแซทและประโยชน์ของส้วมซึมแตกต่างกันอย่างไร
จากประสบการณ์ของบริการดูดส้วมซึ่งได้ทำงานคลุกคลีอยู่กับปัญหาเรื่องของส้วมมาเป็นเวลานานแล้วนั้น ทำให้ได้รู้ว่าประโยชน์ของถังแซทและส้วมซึมจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยข้อดีของถังแซทคือสามารถทำการบำบัดของเสียได้ภายในตัวเองโดยการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ภายในถัง แต่ก็จะมีข้อเสียคือตัวถังมีขีดจำกัดในการรองรับสิ่งปฏิกูลตลอดจนน้ำเสีย เพราะฉะนั้นก่อนการติดตั้งจึงจำเป็นจะต้องอาศัยช่างผู้เชี่ยวชาญ และต้องเลือกขนาดของถังแซทให้พอดีกับการใช้งานนั่นเอง
ในขณะที่ลักษณะของส้วมซึมจะมีการเต็มของบ่อได้น้อยมากกว่าถังแซท หาซื้อได้ทั่วไปและนิยมใช้กันมากตามพื้นที่ชนบทต่าง ๆ ซึ่งจะต้องระวังในเรื่องของน้ำที่อาจจะเข้าไปปะปน ทำให้กินพื้นที่บริเวณบ่อเก็บได้ รวมถึงระมัดระวังการตั้งส้วมซึมไว้ใกล้กับแหล่งน้ำมากจนเกินไป เนื่องจากเสี่ยงต่อการรั่วไหลทั้งจากน้ำภายนอกมาสู่ตัวบ่อ แต่ความเสี่ยงที่น้ำสกปรกจากในบ่อจะรั่วไหลไปสู่ภายนอกอีกด้วย
3. ระยะเวลาในการดูดส้วมถังแซทกับส้วมซึม
สำหรับใครที่มีการใช้งานถังแซทและส้วมซึม แล้วเกิดความสงสัยว่าจะต้องมีการใช้บริการดูดส้วมบ่อยมากแค่ไหน คำตอบก็คือโดยปกติแล้วหากมีความสะดวกในการใช้บริการดูดส้วมอย่างสม่ำเสมอก็ถือว่าจะเป็นการดี โดยอาจจะทิ้งระยะห่างในหารดูดส้วมสักประมาณ 4 -6 เดือนก็ได้ (ทั้งนี้ทั้งนั้นระยะเวลาและความถี่ในการดูดส้วมของแต่ละบ้านก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของถังและปริมาณของสิ่งปฏิกูลภายใน) หรือให้ทำการสังเกตดูว่าเกิดความผิดปกติขณะใช้งาน เช่น ส้วมกดไม่ลง เกิดกลิ่นเหม็น เป็นต้น
แต่สำหรับบ้านไหนที่ระบบของการบำบัดของเสียทำงานได้เป็นอย่างดี โดยไม่ได้เกิดความผิดปกติขณะใช้งาน ในรูปแบบของส้วมซึมก็อาจจะสามารถทิ้งระยะการใช้บริการดูดส้วมยาวนานหลักหลายปีต่อ 1 ครั้งเลยก็ได้ เนื่องจากตัวบ่อของส้วมประเภทนี้จะมีระบบการไหลเวียนเพื่อแยกน้ำเสียกับกากของสิ่งปฏิกูลออกจากกัน ส่งผลให้สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถึงจะใช้เวลานานกว่าถังแซทก็ตาม
ในขณะเดียวกันถึงแม้ว่าผู้ที่เลือกใช้งานถังแซทแทนการกำจัดของเสียด้วยวิธีการธรรมชาติอย่างส้วมซึม ก็ยังจำเป็นจะต้องทำการดูดส้วมอยู่เป็นประจำ เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพตลอดจนยืดอายุการใช้งานของตัวถังแซทด้วยนั่นเอง โดยสามารถใช้บริการดูดส้วมเป็นประจำหรือทิ้งไว้ประมาณ 3 - 5 ปีต่อครั้งก็ได้
4. สาเหตุที่งูเข้าส้วมและวิธีการป้องกันแบบง่าย ๆ
นอกจากคำถามที่ผู้ใช้งานบริการดูดส้วมและคนทั่วไปอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องของระบบบำบัดและจัดเก็บสิ่งปฏิกูลของส้วมที่เราได้นำมาฝากกันไปแล้ว ก็ยังมีอีกหลากหลายคำถามซึ่งเป็นประเด็นร้อนแรงและกลายเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว เพราะปัญหานี้อาจจะไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานส้วม แต่มันอาจจะส่งผลอันรายถึงชีวิตของผู้ใช้งานได้เลยนั่นเอง
ซึ่งปัญหาที่กล่าวมาก็คือเรื่องของการที่มี ‘งูเข้าส้วม’ โดยที่เราไม่รู้ตัว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะดูเป็นเรื่องขำขันหรือเหตุการณ์ที่ดูน่าเหลือเชื่อสำหรับใครหลายคน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันเคยมีเหตุการณ์ในรูปแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว และที่น่าตกใจก็คือมันไม่ได้เกิดแค่กับบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งธรรมชาติหรือห้องน้ำในบ้านชั้นเดียวเท่านั้น แต่มันยังเคยเกิดเหตุแบบนี้กับห้องบนคอนโดสูง ๆ ได้ด้วย
โดยสาเหตุของการที่งูเข้ามาในส้วมได้นั้นก็อาจจะเกิดมาจากการที่ถังหรือท่อระบายของส้วมเกิดการแตกหัก และมีช่องเพียงพ่อให้งูสามารถแทรกกายเข้ามาภายในท่อระบาย หรือถังบ่อเกรอะเพื่อหาอาหาร จากนั้นมันก็จะเลื้อยตามทางยาวไปเรื่อย ๆ จนสามารถมาโผล่ที่ปากชักโครกซึ่งเป็นทางออกได้นั่นเอง
หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อย ก็คือการที่พวกงูเข้ามาจากทางหน้าต่างหรือประตูห้องน้ำซึ่งเปิดทิ้งเอาไว้ จากนั้นเมื่อพวกมันเจอเข้ากับอากาศที่อบอ้าวจึงเข้าไปหลบอยู่ภายในบริเวณชักโครก (ส่วนใหญ่สาเหตุนี้จะเกิดกับห้องน้ำที่อยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน) ซึ่งสำหรับวิธีการป้องกันและเอาตัวรอดจากการที่งูหลุดเข้ามาในส้วมก็มีอยู่หลากหลาย เช่น
บริการดูดส้วมของเราพร้อมไขข้อข้องใจ วางท่อระบายน้ำในบ้านอย่างไรให้ถูกต้อง
อีกหนึ่งสาระความรู้ดี ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับบุคคลทั่วไป ที่อาจจะเคยเจอกับปัญหาที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยโชยสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับสมาชิกภายในบ้าน ซึ่งมีสาเหตุเกิดมาจากการติดตั้งท่อน้ำไม่ถูกวิธี ไม่รู้วิธีการติดตั้งท่อระบายน้ำที่ถูกต้อง รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งทำให้น้ำเสียและสิ่งสกปรกเหล่านั้นไหลย้อนมาทำให้เกิดเป็นกลิ่นเหม็นไปทั่วนั่นเอง โดยวิธีการแก้ปัญหาในเบื้องต้นสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
ตะแกรงกันกลิ่น หรือ Bell Trap คือตะแกรงที่มีลักษณะคล้ายรูปชามคว่ำ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตัวของมันสามารถขังน้ำเอาไว้ในตัว เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นไหลย้อนเข้ามาสร้างความรำคาญ ดังนั้นหากกลิ่นไม่พึงประสงค์ไหลย้อนกลับมาก็จะไม่สามารถทะลุชั้นน้ำออกมาได้นั่นเอง โดยผู้ใช้งานจะต้องหมั่นทำความสะอาดและตรวจสอบอยู่เป็นประจำว่าตะแกรงยังคงใช้งานได้ปกติ และมีน้ำขังอยู่ตลอดหรือไม่
การติดตั้งท่อ P-Trap และ U-Trap คือรูปแบบการติดตั้งท่อระบายน้ำในลักษณะซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในสมัยนี้ เนื่องจากมันมีความสามารถและช่วยในการดักจับกลิ่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ไม่ให้ไหลย้อนกลับเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีอีกด้วย โดยท่อทั้งสองประเภทนี้จะติดตั้งอยู่บริเวณใต้รูระบายน้ำทิ้ง ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปเล็กน้อยดังนี้
การติดตั้งต่อแบบ P-Trap : ลักษณะของการติดตั้งท่อในรูปแบบนี้จะต้องทำให้ท่อน้ำทิ้งมีลักษณะเป็นรูปตัว P ( P-Trap ) โดยเดินท่อจากด้านบนในแนวดิ่ง จากนั้นผ่านบริเวณท่อรูปตัว U (U-Trap) ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันกลิ่นไหลย้อนกลับ จากนั้นจึงออกแบบให้ทำการเชื่อมต่อท่อเข้ากับส่วนของทางระบายน้ำในแนวนอนต่อไป
การติดตั้งท่อแบบ U-Trap : ลักษณะของการติดตั้งท่อในรูปแบบนี้จะเป็นการติดตั้งท่อระบายน้ำให้มีลักษณะคล้ายรูปตัว U เพื่อให้บริเวณส่วนโค้งของท่อซึ่งหงายขึ้นนั้นสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์จากของเสียหรือน้ำเสียที่มีกลิ่นลอยกลับเข้ามาบริเวณปากท่อได้นั่นเอง